ขนาดตัวอ่อนในครรภ์แต่ละสัปดาห์

ขนาดตัวอ่อนในครรภ์แต่ละสัปดาห์

เมื่อตั้งครรภ์ ตัวอ่อนในครรภ์จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและมีพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นในแต่ละสัปดาห์ การเข้าใจขนาดของตัวอ่อนและการเปลี่ยนแปลงต่าง จะช่วยให้คุณแม่ติดตามการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น มาดูกันค่ะว่าตัวอ่อนในครรภ์มีขนาดเท่าไหร่ในแต่ละสัปดาห์ในช่วงแรก ของการตั้งครรภ์

 

สัปดาห์ที่ 4 - 10: ช่วงเริ่มต้นพัฒนาการ

ในช่วงสัปดาห์แรก ตัวอ่อนจะมีการพัฒนาทางโครงสร้างและระบบอวัยวะต่าง

- **สัปดาห์ที่ 4:** ตัวอ่อนมีขนาดเล็กมากประมาณ 0.1 เซนติเมตร หรือเท่ากับเมล็ดงา  

- **สัปดาห์ที่ 5:** ตัวอ่อนเริ่มมีขนาดประมาณ 0.2 เซนติเมตร (เมล็ดฝิ่น) เริ่มมีโครงสร้างของระบบประสาท

- **สัปดาห์ที่ 6:** ขนาดประมาณ 0.4 - 0.5 เซนติเมตร (เมล็ดถั่วงอก) เริ่มมีการพัฒนาของหัวใจและสมอง  

- **สัปดาห์ที่ 7:** ตัวอ่อนมีขนาดประมาณ 0.64 เซนติเมตร (บลูเบอร์รี) และเริ่มสร้างโครงร่างของแขนขา  

- **สัปดาห์ที่ 8:** ตัวอ่อนมีขนาดประมาณ 1.6 เซนติเมตร (เมล็ดเชอร์รี) และพัฒนารูปแบบของอวัยวะสำคัญเริ่มชัดเจนขึ้น  

- **สัปดาห์ที่ 9:** ตัวอ่อนมีขนาดประมาณ 2.3 เซนติเมตร (องุ่น) และเริ่มขยับตัวได้เล็กน้อย  

- **สัปดาห์ที่ 10:** ขนาดประมาณ 3.1 เซนติเมตร (สตรอว์เบอร์รี) เริ่มเห็นลักษณะใบหน้าอย่างชัดเจน 

 

สัปดาห์ที่ 11 - 14: ทารกเริ่มมีขนาดที่ชัดเจนขึ้น

ในช่วงนี้ ตัวอ่อนเริ่มเข้าสู่ระยะเป็นทารกในครรภ์อย่างสมบูรณ์

- **สัปดาห์ที่ 11:** ขนาดประมาณ 4.1 เซนติเมตร (มะนาว) ร่างกายเริ่มชัดเจนมากขึ้น

- **สัปดาห์ที่ 12:** ขนาดประมาณ 5.4 เซนติเมตร (พลัม) ทารกสามารถขยับร่างกายได้

- **สัปดาห์ที่ 13:** ขนาดประมาณ 7.4 เซนติเมตร (ถั่วลันเตา) ระบบย่อยอาหารเริ่มทำงาน  

- **สัปดาห์ที่ 14:** ขนาดประมาณ 8.7 เซนติเมตร (ลูกพีช) เส้นผมเริ่มขึ้นและสามารถรับรู้เสียงจากภายนอกได้

 

สัปดาห์ที่ 15 - 20: พัฒนาการที่ละเอียดอ่อน

ช่วงนี้ร่างกายของทารกมีการพัฒนาที่ซับซ้อนและสามารถสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวได้เล็กน้อย

- **สัปดาห์ที่ 15:** ขนาดประมาณ 10.1 เซนติเมตร (แอปเปิ้ล) เริ่มรู้สึกการเคลื่อนไหวในครรภ์  - **สัปดาห์ที่ 16:** ขนาดประมาณ 11.6 เซนติเมตร (อะโวคาโด) มีการพัฒนาของระบบการย่อยอาหาร  

- **สัปดาห์ที่ 17:** ขนาดประมาณ 13 เซนติเมตร (หัวหอมใหญ่) เริ่มเห็นผิวหนังบาง ปกคลุมร่างกาย  

- **สัปดาห์ที่ 18:** ขนาดประมาณ 14.2 เซนติเมตร (มันเทศ) เริ่มพัฒนาเส้นผมบาง ที่ศีรษะ  

- **สัปดาห์ที่ 19:** ขนาดประมาณ 15.3 เซนติเมตร (มะเขือเทศลูกใหญ่) ระบบประสาทพัฒนามากขึ้น  

- **สัปดาห์ที่ 20:** ขนาดประมาณ 16.4 เซนติเมตร (กล้วยหอม) การเคลื่อนไหวในครรภ์ชัดเจนขึ้น  

 

สัปดาห์ที่ 21 - 24: การพัฒนาอวัยวะที่สำคัญและการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนขึ้น

ในช่วงนี้ ทารกในครรภ์จะมีพัฒนาการที่สำคัญหลายประการ รวมถึงเริ่มมีปฏิกิริยาต่อเสียงและการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนขึ้น

- **สัปดาห์ที่ 21:** ขนาดประมาณ 26.7 เซนติเมตร (แครอท)
ทารกเริ่มมีปฏิกิริยาต่อเสียงจากภายนอก และคุณแม่อาจรู้สึกถึงการดิ้นหรือการเคลื่อนไหวมากขึ้น ควรเริ่มพูดคุยหรือเปิดเพลงที่ผ่อนคลายให้ทารกฟัง

- **สัปดาห์ที่ 22:** ขนาดประมาณ 27.9 เซนติเมตร (ฟักทองเล็ก)
ผิวหนังเริ่มหนาขึ้นและมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะโปรตีนและไขมันที่ดีเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและพลังงาน

- **สัปดาห์ที่ 23:** ขนาดประมาณ 28.9 เซนติเมตร (ข้าวโพด)
ตาของทารกเริ่มพัฒนาเต็มที่ และเริ่มตอบสนองต่อแสงได้ ควรป้องกันตัวจากแสงแดดที่ร้อนจัดและดูแลสุขภาพผิวพรรณของคุณแม่

- **สัปดาห์ที่ 24:** ขนาดประมาณ 30 เซนติเมตร (หน่อไม้ฝรั่ง)
ระบบปอดเริ่มพัฒนา และทารกสามารถหายใจในน้ำคร่ำได้เล็กน้อย คุณแม่ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาปริมาณน้ำคร่ำ

### สัปดาห์ที่ 25 - 28: เริ่มมีการเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด
ทารกในครรภ์เริ่มมีขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และมีการพัฒนาของระบบต่าง ๆ มากขึ้น

- **สัปดาห์ที่ 25:** ขนาดประมาณ 34.6 เซนติเมตร (สับปะรด)
ทารกสามารถรับรสได้และมีการตอบสนองต่อการสัมผัส คุณแม่สามารถรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ทารกเริ่มสัมผัสรสชาติผ่านทางน้ำคร่ำได้

- **สัปดาห์ที่ 26:** ขนาดประมาณ 35.6 เซนติเมตร (มะเขือยาว)
ระบบประสาทและสมองพัฒนาอย่างรวดเร็ว ควรพักผ่อนให้เพียงพอและทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นความผ่อนคลาย เช่น การนั่งสมาธิหรือตั้งใจทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณแม่มีอารมณ์ที่ดี

- **สัปดาห์ที่ 27:** ขนาดประมาณ 36.6 เซนติเมตร (กะหล่ำปลี)
ทารกเริ่มฝึกการหายใจ โดยการหายใจในน้ำคร่ำเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการหายใจเมื่อคลอด ควรหลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศและดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย

- **สัปดาห์ที่ 28:** ขนาดประมาณ 37.6 เซนติเมตร (ต้นหอมใหญ่)
ทารกสามารถลืมตาและหลับตาได้ ควรทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการพัฒนาสมอง เช่น อ่านหนังสือและฟังเพลงที่ผ่อนคลาย เพื่อให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

 


การดูแลตัวเองในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3


- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : โดยเน้นโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และโอเมก้า-3 ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารก
- ออกกำลังกายเบา ๆ : เช่น การเดินหรือโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและช่วยในการไหลเวียนของเลือด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ : เพื่อฟื้นฟูพลังงานและช่วยลดความเครียดที่อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์
- ติดตามการตรวจสุขภาพประจำเดือน : กับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินพัฒนาการและสุขภาพของทารกในครรภ์

การเข้าใจพัฒนาการและขนาดของทารกในแต่ละสัปดาห์ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่นใจ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความผูกพันระหว่างคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์อย่างมากค่ะ

กลับไปยังบล็อก